Search This Blog / The Web ค้นหาบล็อค / เว็บ

Friday, January 30, 2015

พระพุทธทำนาย 16 ข้อ รวบรวมจัดทำโดย อ. สุชาติ ภูวรัตน์

พระพุทธทำนาย 16 ข้อ





จัดทำโดย อ.สุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอกบาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ.พท.ว.พท.ผ.พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต
ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม

พระพุทธทำนาย 16 ข้อ

ครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการ อันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทม และครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย 

พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่าเป็นพระสุบินที่ร้าย และว่าพระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง และแนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้า 

จึงทูลให้ไปขอคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียงแต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไป และแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี

เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่า อายุพระพุทธศาสนาของพระสมณโคดม ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น ต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย์ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์) "

ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง 16 ประการ มีดังนี้

1. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิดจะชนกัน ก็พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดู โคทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้วโคต่างก็ถอยออกไป ไม่ชนกัน " 


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "ในอนาคตในชั่วศาสนาของพระองค์ เมื่อโลกหมุน ไปถึงจุดที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น คล้ายเมฆตั้งเค้าจะมีฝน มีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้วก็ไม่ตกกลับเลยหายไป เหมือนโคตั้งท่าจะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น" ***


2. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว"



***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์ มีวัยยังไม่สมบูรณ์ ก็จะมีราคะกล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว"



3. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโคที่เพิ่งเกิด " 


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ต่อไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่เมื่อหมดที่พึ่ง หาเลี้ยงตนไม่ได้ ก็ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆ ดังที่แม่โคที่ต้องกินนมลูกโคฉะนั้น "



4. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า " ผู้คนไม่ใช้วัวตัวใหญ่ ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียน กลับไปใช้โครุ่นๆ ที่ยังปราศจากกำลังมาลาก เมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่ได้ มันก็สลัดแอกนั้นเสีย " 


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ในภายหน้าเมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม แทนที่จะยกย่องและมอบหมายหน้าที่ ให้กับผู้มีสติปัญญา ความรู้ กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จ ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็ แล่นไม่ได้ฉันใดก็ฉันนั้น "



5. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ได้เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองข้าง ฝูงชนก็เอาหญ้าไปป้อนที่ปากทั้งสองข้าง มันก็กินทั้งสองข้าง "


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ในอนาคตเมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่ในธรรม ตั้งคนพาล หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่น คนเหล่านั้นก็จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่จะตัดสินคดีต่างๆ ตามแต่ใจชอบ โดยเอาสินบนจากทั้งสองฝ่ายเป็นประมาณ ดังม้าที่กินหญ้าทั้งสองปาก "


6. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ฝูงชนเอาถาดทองราคาแพง ไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้น ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น " 


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ต่อไปคนดีมีสกุลทั้งหลายจะ สิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำ หรือคนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และคนมีตระกูล ก็จะต้องยกลูกสาว ให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น เหมือนเอาถาดทองไปให้หมาปัสสาวะรด "


7.พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "มีชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปในที่ใกล้เท้าแม่หมาจิ้งจอกโซ ตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่ แล้วก็กัดกินเชือกนั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว " 


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า   "ในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว เที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามีหาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้ เหมือนนางหมาโซที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่น และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า "


8. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "มีตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมตุ่มหนึ่งวางอยู่ตรงประตูวัง แวดล้อมด้วยตุ่มว่างๆ เป็นอันมาก แต่คนก็ยังไปตักน้ำใส่ตุ่มที่เต็มอยู่ จนล้นแล้วล้นอีก โดยไม่เหลียวแลจะตักใส่ตุ่มที่ว่างๆ นั้นเลย" 

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "ในอนาคต เมื่อศาสนาเสื่อม คนเป็นใหญ่หรือมีอำนาจ จะเบียดเบียนหรือเอา เปรียบผู้ด้อยกว่า คนที่รวยอยู่แล้ว ก็จะมีคนจนหารายได้ ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น ดังฝูงชนที่ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่ที่เต็มอยู่แล้วจนล้น ส่วนตุ่มที่ว่างอยู่กลับไม่ไปใส่น้ำ"


9. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "ได้เห็นสระแห่งหนึ่ง มีบัวนานาชนิดขึ้นอยู่เต็ม และมีท่าขึ้นลงโดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระ แต่แทนที่น้ำบริเวณที่สัตว์เหยียบย่ำจะขุ่น กลับใสสะอาด ส่วนน้ำที่อยู่ลึกกลางสระที่สัตว์ไม่ไปดื่มหรือ เหยียบย่ำแทนที่จะใส กลับขุ่นข้น"

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "ต่อไป เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดเมตตา คอยใช้อำนาจ รีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมือง ก็จะหนีไปอยู่ตามชายแดนหรือที่อื่นๆ ทำให้ที่นั้นๆ ที่คนพากันไปอยู่มีความ มั่นคงเป็นปึกแผ่น เหมือนน้ำรอบๆ สระที่ใส ส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า เหมือนกลางสระที่ขุ่น"


10. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "ได้เห็นข้าวที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกดี"

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ในอนาคต เมื่อคนทั้งหลายไม่อยู่ในศีลในธรรม กันมากขึ้น ก็จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือตกไม่ทั่วถึง ทำให้การเพาะปลูกบางแห่งได้ผล บางแห่งก็ไม่ได้ผล เช่นเดียวกับข้าวที่มีสุกบ้าง ดิบบ้าง และแฉะบ้าง "


11. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "ได้มีคนนำแก่นจันทน์ที่มีราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า (อ่านว่า เปฺรียง มี 3 ความหมาย คือ 

1. นมส้มผสมน้ำแล้วเจียวให้แตกมัน 

2.น้ำมันจากไขข้อวัว และ 

3.เถาวัลย์ เปรียง แต่ในที่นี้น่าจะหมายถึงเถาวัลย์เปรียง เทียบกับแก่นจันทน์ที่เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความหมายแรก)"


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่ได้ทั้งหลาย แทนที่ จะนำธรรมะ ที่พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์ และละความโลภ กลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหากิน หาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือนเอาแก่น จันทน์ (ธรรมะคำสอนที่ดี) ไปแลกเอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิสที่ได้รับมา ซึ่งไม่จีรังและไม่ช่วย ให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้)"


12. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันเห็นว่า  "ได้มีกะโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้ " 

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ต่อไปคำพูดของคน ที่ไม่ควรจะ ได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือ โดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก หรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนักราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้ "


13.  พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ได้มีศิลาแท่งทึบขนาดเรือน ลอยน้ำได้เหมือนเรือ"


***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ ซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่ ได้รับความเชื่อถือ หรือกลายเป็นถ้อยคำที่ไม่มีน้ำหนักเหมือน เรือที่ลอยได้ ข้อนี้ตรงกันข้าม กับข้อที่แล้ว คือ คนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่งที่ควรลอยกลับจม สิ่งที่ควรจมกลับลอย"



14. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "ได้เห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ และกัดเนื้องูเห่าขาดเหมือนกัดก้านบัว แล้วกลืนกินเข้าไป"

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า "เมื่อมนุษย์ปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลส ราคะ สามีจะตกอยู่ในอำนาจของเมียเด็ก และจะถูกดุด่าว่ากล่าวเช่นเดียวกับคนรับใช้ เหมือน เขียดตัวเล็กๆ แต่กลับกินงูได้"



15.  พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า  "ได้มีพญาหงส์ที่มีขนเป็นทอง ถูกแวดล้อมด้วยกา "

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ในอนาคตผู้มีตระกูลต้องไปเที่ยวประจบ และสวามิภักดิ์ต่อผู้ไม่มีตระกูล เหมือนหงส์ทองแวดล้อมด้วยฝูงกา "



16. พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่า "ได้เห็นฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัว จนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ" 

***พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า  "ต่อไปภายหน้า คนชั่ว หรือคนที่ไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้าย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ"

จบพระพุทธทำนาย 16 ข้อ

ขอให้ได้บุญโดยทั่วกัน
ที่ได้นำมาถ่ายทอดในครั้งนี้
พุทธบริษัท 4 จะได้ติดตาม

พระพุทธทำนายต่อไป

---------------------------------------------------------------------------------




อะไรจะเกิดขึ้นภายหลังความตาย 49 วัน หรือ 7 สัปดาห์ ? รวบรวมจัดทำโดย อ. สุชาติ ภูวรัตน์

อะไรจะเกิดขึ้นภายหลังความตาย 49 วัน หรือ 7 สัปดาห์ ?


 จัดทำโดย อ.สุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอกบาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ.พท.ว.พท.ผ.พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต
ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม

อะไรจะเกิดขึ้นภายหลังความตาย 49 วัน หรือ 7 สัปดาห์ ?

เมื่อจิตวิญญาณได้ออกจากร่างคนที่ตายแล้ว ภายใน 49 วัน วิญญาณเหล่านั้นจะต้องไปรายงานตัวที่ยมโลก

ผู้ที่ทำกรรมดีเมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่ เมื่อได้ไปตรวจสอบบัญชีที่ยมโลกแล้วก็จะถูกนำไปส่งบนสวรรค์ตามชั้นต่างๆ

ส่วนผู้ที่ทำกรรมชั่ว ต้องถูกนำไปจองจำลงโทษในเมืองนรกตามขุมต่างๆ แล้วแต่กรรมที่ทำไว้ ต้องเสวยทุกข์ทรมาน เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว แม้จะสำนึกได้ว่า ตายแล้วทุกอย่างที่ทำไว้ด้วยความโลภเกินจำเป็น ยศฐาบรรดาศักดิ์ที่ภาคใจหลงในอำนาจนักหนา ทรัพย์สินทั้งหมด สามีภรรยากี่ตนก็ตาม รวมถึงลูกหลานบริวารรับใช้ 

แม้แต่ร่างกายของตนเองที่หลงกันนักว่าหล่อว่าสวยงามเสียเงินทองบำรุงประดับประดาสักเท่าใดก็ไม่สามารถเอาติดตัวมาได้ ยกเว้นแต่บาปกรรมที่ทำไว้ ต้องมารับผลของกรรมนั้น ความสำนึกหลังความตายไร้คุณค่าเพราะแก้ไขไม่ได้แล้ว

ในสัปดาห์ที่ 1 จิตวิญญาณของผู้ทำบาปเหล่านั้นต้องเดินผ่านดงหมาป่าอันดุร้ายเหมือนเสือมาขวางทางอยู่ แม้วิญญาณบาปเหล่านั้นมีความหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป แต่ฝูงหมาป่าก็กระโจนรุมกันเข้ามากัดอย่างมันเขี้ยว

จนเลือดท่วมตัววิญญาณบาปเหล่านั้นๆต่างกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดเร้าเต็มไปด้วยทุกข์เวทนายิ่งนัก

ส่วนวิญญาณของผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า จะได้รับการคุ้มกันให้เดินต่อไปได้ พวกหมาป่าได้แต่มองนิ่งเฉยไม่กล้าทำอะไร จึงเดินผ่านดงหมาป่าไปได้โดยปลอดภัย

ในสัปดาห์ที่ 2 วิญญาณผู้ตายจะต้องเดินผ่านประตูผี เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาด่าน เห็นพวกวิญญาณบาปว่าใกล้ ก็จะทุบตีทิ่มแทงอย่างไม่ปราณี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรมาคอยทวงถามหนี้เวรกรรมที่ทำกับพวกเขาไว้
ส่วนพวกที่ทำกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและให้ผ่านแต่โดยดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ในสัปดาห์ที่ 3 เมื่อพวกวิญญาณเดินทางถึงยมโลก ถ้าเป็นพวกวิญญาณบาปก็จะถูกล่ามโซ่ตรวนและนำไปอยู่ตรงหน้ากระจกส่องกรรม ก็จะได้เห็นที่พวกตนได้ทำบาปไว้เมื่อครั้งมีชีวิต เหมือนดูภาพยนตร์ย้อนหลัง จะได้เห็นภาพต่างๆปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ พวกวิญญาณที่เคยทำกรรมชั่วไว้ไม่อาจคัดค้านได้ และถูกนำไปรับการลงโทษ ถึงตอนนี้แม้พวกวิญญาณจะเริ่มสำนึกผิดบาปกรรมที่พวกตนได้เคยทำไว้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว


ส่วนพวกวิญญาณผู้ได้ทำความดี เมื่อมาถึงที่นี่ก็จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และมีเจ้าหน้าที่พาไปเที่ยวดูขุมนรกต่างๆ และดูสภาพของญาติมิตรที่กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด



















ในสัปดาห์ที่ 4 พวกเหล่าวิญญาณได้มาถึงบริเวณที่เป็นภูเขากองกระดาษเงินกระดาษทอง การที่จะเดินขึ้นและข้ามภูเขานี้ไปด้วยความลำบากมาก ภูเขากองกระดาษเงินกระดาษทองนี้เกิดจากคนในเมืองมนุษย์เผาส่งไปให้ญาติพี่น้อง ด้วยความคิดว่าจะได้นำไปใช้ได้ในเมืองนรก แต่แท้จริงแล้วแม้พวกวิญญาณจะได้รับก็ไร้ประโยชน์

ในสัปดาห์ที่ 5 เมื่อพวกวิญญาณมาถึงหอดูบ้านเดิมของพวกเขา ก็ได้เห็นลูกหลานคนในบ้านต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ทำให้พวกวิญญาณเริ่มรู้ว่าพวกตนได้ตายจริงแล้วและอยู่คนละภพคนละภูมิ ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่อาลัยอาวรณ์โศกเศร้าเสียใจยิ่งนักที่ต้องพลัดพรากจากกัน และไม่ได้พบกันอีก

ในสัปดาห์ที่ 6 เมื่อพวกวิญญาณเดินทางมาถึงสำนักงานของยมพบาล ท่านยมพบาลก็จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ผุ้ดูแลบัญชี ตรวจดูบุญและบาป ของพวกวิญญาณผู้ตายที่ได้สร้างสมไว้ขณะที่มีชีวิต หลังจากนำบุญและบาปหักลบกันแล้ว ถ้าฝ่ายบุญมากกว่าบาป ก็จะให้เกิดยังสุคติภูมิ แต่ถ้าฝ่ายบาปมากกว่าบุญ ก็จะส่งไปนรกภูมิเพื่อรับผลกรรมที่ทำไว้

ในสัปดาห์ที่ 7 เมื่อพวกวิญญาณเดินทางมาถึงตำหนักของยมพบาลแห่งนี้ ท่านยมพบาลก็จะสั่งให้เลขาตรวจสอบดูว่า พวกวิญญาณผู้ตาย ขณะมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากหรือไม่ ถ้าชอบฆ่าสัตว์เพื่อความสุขเพื่อปากเพื่อท้อง ก็จะเพิ่มโทษอีกเท่าตัว แต่ถ้าถือศีลกินเจงดเว้นการฆ่าสัตว์ก็จะได้รับการระงับโทษ






------------------------------------------------------------------------