Search This Blog / The Web ค้นหาบล็อค / เว็บ

Thursday, February 6, 2014

พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอริยสงฆ์สาวก พระธาตุอริยสงฆ์ไทย รวมจัดทำโดย อ.หมอสุชาติ ภูวรัตน์

พระบรมสารีริกธาตุ
พระธาตุอริยสงฆ์สาวก
และพระอริยสงฆ์ไทย





พระบรมสารีริกธาตุ


จัดทำโดย อ.หมอสุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอกบาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ.พท.ว.พท.ผ.พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต
ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม

การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ


ภายหลังจากประชุมเพลิงพระบรมศพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย เมื่อได้รับส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจากโฑณพราหทณ์แล้ว ต่างองค์ต่างก็จัดขบวนอันมโหฬาร อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปยังพระนครของตนด้วยเกียรติยศอันสูง 

แล้วให้ก่อพระสถูปเจดีย์ขึ้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เป็นที่สักการบูชาของมหาชน จึงปรากฏว่ามีพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ดังนี้ 

พระสถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

1
พระธาตุเจดีย์ที่เมืองราชคฤห์
   
2. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองไพศาลี  
  
3. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองกบิลพัสดุ์
   
4. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองอัลลกัปปนคร 
   
5. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองรามนคร 

6. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองเวฏฐทีปกนคร  
  
7. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองปาวานคร 
   
8. พระธาตุเจดีย์ที่เมืองกุสินารานคร   
9. พระอังคารเจดีย์ที่เมืองโมรีนคร 

10. พระตุมพเจดีย์ที่เมืองกุสินารานคร

รวมเป็น 10 เจดีย์ด้วยกัน 







ยังส่วนต่างๆ ที่เป็นส่วนของพระบรมธาตุบ้าง ที่เป็นส่วนบริขารพุทธบริโภคบ้าง ก็ปรากฏว่าได้รับอัญเชิญไปสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุไว้ในเมืองต่างๆ ดังนี้ 

1. พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนขวา กับพระรากขวัญเบื้องขวา ขึ้นไป ประดิษฐานอยู่ในพระจุฬามณีเจดีย์สถาน ณ ดาวดึงสเทวโลก

2. พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวา เดิมไปประดิษฐาน ณ เมืองกาลิงคราฐ แต่บัดนี้ไปสถิตอยู่ในลังกาทวีป
3. พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้าย ไปประดิษฐานอยู่ ณ เมืองคันธารราฐ 


4. พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำซ้าย ไปประดิษฐานอยู่ในนาคพิภพ


5. พระรากขวัญเบื้องซ้าย กับพระอุณหิส ขึ้นไปประดิษฐานอยู่ในทุสส  เจดีย์ ณ พรหมโลก 

ส่วนพระทนต์ทั้ง 36 และพระเกศา พระโลมา กับทั้งพระนขาทั้ง 20 นั้น เทพยดาอัญเชิญไปองค์ละองค์ สู่จักรวาลต่างๆ 

อนึ่ง พระบริขารพุทธบริโภคทั้งหลายนั้น ก็ได้รับอัญเชิญไปบรรจุไว้ในสถูปตามนครต่างๆ ดังนี้ 


   1. พระกายพันธน์กับบาตร สถิตอยู่ที่เมืองปาฏลีบุตร 

   2. พระอุทกสาฎก สถิตอยู่ที่เมืองปัญจาลราฐ 


   3. พระจัมมขันธ์ สถิตอยู่ที่เมืองโกสลราฐ


   4. ไม้สีฟัน สถิตอยู่ที่เมืองมิถิลา 

   5. พระธมกรก สถิตอยู่ที่เมืองวิเทหราฐ


   6. มีดกับกล่องเข็ม สถิตอยู่ที่เมืองอินทปัตฐ์ 

   7. ฉลองพระบาทและถลกบาตร สถิตอยู่ที่เมืองอุสิรพราหมณคาม


   8. เครื่องลาด สถิตอยู่ที่เมืองมกุฏนคร

   9. ไตรจีวร สถิตอยู่ที่เมืองภัททราฐ 

10. บาตรเดิมสถิตอยู่ที่เมืองปาฏลีบุตร ภายหลังไปอยู่เมืองลังกาทวีป นิสีทนะสันถัด สถิตอยู่ที่เมืองกุรุราฐ 


สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ปรินิพพานไปแล้ว 4 อย่าง คือ 

1.  ธาตุเจดีย์         คือ     พระบรมสารีริกธาตุ


2.  บริโภคเจดีย์     คือ     สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล


3. ธรรมเจดีย์ คือ จารึกข้อพระธรรม บรรจุไว้ในเจดีย์
4.  อุเทสิกเจดีย์     คือ     พระพุทธรูป ธรรมจักร รอยพระพุทธบาท พระแท่นวัชรอาสน์ หรือ สัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า

สรุปได้ว่า สิ่งที่ควรบูชาสักการะสูงสุดของชาวพุทธคือเจดีย์ ๔ ประเภทดังกล่าว โดยเฉพาะพระบรม


สารีริกธาตุธาตุเจดีย์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้พวกเราเห็นได้แทนพระพุทธองค์


พระพุทธดำรัสที่ตรัสกับ พระอานนท์คราวหนึ่งว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้น เห็น


ธรรม"  ถ้าจะอธิบายในอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า ผู้ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญ คุณความดี มีคุณธรรมประจำใจ 


ก็จะเห็นพระพุทธเจ้าคำว่า" ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา"มี 2 นั ย  


นัยที่ 1 หมายถึงว่า ขณะที่พระพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ คนที่อยู่ห่างไกลประสงค์จะเข้าเฝ้าพระพุทธ


องค์ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ก็ได้ เพียงแต่ให้ผู้นั้นปฏิบัติธรรม ทำทาน 


รักษาศีล เจริญภาวนา พระพุทธเจ้าก็จะเปล่งรัศมีมี ๖ สีไปแสดงพระองค์ปรากฏต่อหน้าผู้นั้น 


นี่คือนัยของคำว่า " ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา "


นัยที่ 2 หมายถึงว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ไปแล้ว ผู้ประสงค์จะเห็นพระพุทธเจ้า 

ขอให้อธิษฐานจิตบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา กล่าวคำอธิษฐานขอให้พระบรมสารีริกธาตุเสด็จ

มา ณ ภาชนะหรือสถานที่เหมาะสมซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ เมื่อทำความดีถึงขั้น พระบรมสารีริกธาตุก็จะ

เสด็จมาตามที่ปรารถนา

พระสังคีติกาจารย์ได้พรรณาประมวลพระสถูปเจดีย์ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระบริขารพุทธบริโภคไว้ด้วยประการฉะนี้

วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน สุปติฏฐิตัง สารีริกธาตุมหาโพธิ พุทธรูปัง สะกะลัง สะทาฯ


ข้าฯ ขอน้อมไหว้พระเจดีย์ในทั่วทุกสถาน ทั้งพระปะระมะธาตุพระทรงญาณ ซึ่งประดิษฐานโอฬารรูจี


ไหว้พระมหาโพธิพวยพุ่งรุ่งโรจน์ร่มรื่นฤดี เป็นไม้พระตรัสจำรัสรัศมีของพระชินศรีศาสดาจารย์


ไหว้พระปฏิมารูปพระตถาคตเจ้าทรงญาณ ทั้งน้อยทั้งใหญ่เก่าใหม่ทุกสถาน ข้าฯ ขอนมัสการเป็นนิรันดรฯ

อ้างอิง: พุทธประวัติทัศนศึกษา โดย พระธรรมโกศาจารย์

ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.270-312)  ได้ทรงสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 84,000 แห่งทั่วทั้งประเทศอินเดีย และประเทศอื่นๆ พระบรมธาตุได้แพร่ไปถึงหลายประเทศ กล่าวว่า


พระอรหันต์ที่มีบทบาทสำคัญหลายรูป เช่น พระกุมารกัสสปะ, พระเมฆิยะ ไปทางล้านนา
พระโสณะเถระ, พระอุตตรเถระฌานียะ ภูริยเถระ มูนียเถระ  ไปทางสุวรรณภูมิ

พระอรหันต์ทั้ง 8 ได้แก่ พระมหารัตนเถระ พระจุลรัตนเถระ,พระมหาสุวรรณปราสาทเถระ, พระจุลสุวรรณประสาทเถระ, พระสังควิชเถระ เป็นต้น นำพระบรมธาตุหัวเหน่า พระธาตุเขี้ยว และพระธาตุฝ่าพระบาทขวามาทางอีสาน
 


 
การนมัสการพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์

พนมมือไหว้ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วเดินเวียนขวารอบเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ 3 รอบ


หากมีเวลา ควรเตรียมดอกบัว ดอกไม้ ธูป เทียน ไปนมัสการ และควรนำทองคำเปลวไปปิดบูชาตามความเหมาะสมด้วยก็ยิ่งดี



          


 

 อานิสงส์การสรงน้ำพระบรมธาตุ

 1. ทำให้เย็นกาย เย็นใจ ดับทุกข์และความเดือดร้อนต่างๆ


 2. ทำให้จิตใจสดชื่น สะอาด และมีสติ


 3. อานิสงส์นี้สามารถแผ่ให้บรรพบุรุษ ญาติมิตร สรรพสัตว์ 

     สรรพวิญญาณทั้งหลายได้เป็นอย่างดี

 4. บางครั้งพระบรมธาตุจะเรืองแสง ฉายรัศมีฉัพพรรณรังสี 

     และวิมุตติธรรมมายังผู้สรงน้ำ เป็นมหามงคลยิ่ง 
     เคราะห์ร้ายหมดไปสิ้น

ควรใช้น้ำสะอาด น้ำกลั่น อาจประทินของหอม ลอยดอกมะลิ หรือกลีบกุหลาบ หรือเจือน้ำอบอ่อนๆ


อานิสงส์การทำบุญกับพระบรมสารีริกธาตุ


(ข้อมูลเหล่านี้ นำมาจาก internet ไม่ทราบท่านใดเขียนไว้
  ขออนุญาต นำมาลงไว้ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศรัทธา)

1. ถวายฉัตรยอดพระเจดีย์ - ส่งผลให้ได้รับการเคารพยกย่อง 

    เกิดในตระกูลสูง มีสง่าราศี

2. ถวายทองคำ - อานิสงส์ให้ผิวพรรณงามเปล่งปลั่ง ร่ำรวยบริบูรณ์


3. ถวายเงิน - ทำให้ใจสว่างไสว อยู่เย็นเป็นสุข


4. ถวายอัญมณี - อานิสงส์ให้มีราศี รัศมีกายทิพย์สว่างสดใส 

    ประสบโชคดี

5. ถวายแผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระเจดีย์ 

    อานิสงส์ให้ผิวพรรณงาม มีราศี ใจสว่าง สดใส และอบอุ่นใจ

6. ถวายอิฐ หิน ปูน ทราย - ส่งผลให้มีชีวิตมั่นคง 

    จิตใจหนักแน่นมั่นคง

7. สร้างองค์พระเจดีย์ - ส่งผลให้ได้รับสิ่งที่พึงปรารถนา 

    สุขภาพดี มีความสุข

8. ถวายธงหลากสีประดับองค์พระธาตุ - ทำให้มีสง่าราศี 

    กายทิพย์สว่าง

9. ถวายเทียน หรือโคมไฟ - อานิสงส์ให้ใจสว่าง มีชีวิตสะดวกสบาย

    อุปสรรคลดลง มีปัญญาธรรมสูง  มีดวงตาเห็นธรรม

10. ถวายดอกไม้ต่างๆ - ส่งผลให้ใจสงบสะอาด เป็นสุขสดชื่น


11. ถวายธูป เครื่องหอม ทำให้ใจอบอุ่นมั่นคง จิตสว่าง 

      อุปสรรคลดลง มีกลิ่นกายสะอาด สดชื่นอยู่เสมอ

12. ถวายแผ่นดินปูพื้นเจดีย์ - ส่งผลให้มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น 

      มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น

13. ถวายผ้าเหลืองครองหุ้มองค์พระเจดีย์ - มีอานิสงส์เนกขัมมบารมี 

      ใจสงบ เข้าสู่วิมุตติธรรมเร็วขึ้น

14. สรงน้ำพระธาตุ - ทำให้ใจสะอาด สงบ สว่างขึ้น กายและใจสดชื่น

      สุขภาพดี

15. ถวายข้าว อาหาร บูชาพระสารีริกธาตุ - ส่งผลให้อุดมสมบูรณ์ 

      อิ่มอกอิ่มใจ สุขภาพดี

16. เวียนรอบองค์พระสารีริกธาตุ - อานิสงส์เป็นสิริมงคล 

      ทำให้จิตใจสูง สะอาด เพิ่มกุศลธรรม

17. เคารพบูชาด้วยจิตศรัทธาพระสารีริกธาตุ 

      ทำให้เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิด 
      ได้บารมีวิมุตติธรรมจากพระบรมธาตุ สู่มรรคผลนิพพานเร็วขึ้น


18. เป็นเจ้าภาพ หรือช่วยจัดงานฉลองพระสารีริกธาตุ 

      ทำให้ประสบความสุขในชีวิต อุดมสมบูรณ์
      เป็นที่เคารพยกย่องมีคนช่วยเหลือเสมอ


19. บูรณะซ่อมแซมเจดีย์พระบรมธาตุ 

      อานิสงส์ให้สุขภาพดี อายุยืน บุคลิกผิวพรรณดี ฐานะมั่นคง

20. สร้างเจดีย์พระบรมธาตุ - ส่งผลให้ชีวิตมั่นคง 
      มีความสุขสมความปรารถนา เป็นที่เคารพยกย่อง
      เข้าสู่มรรคผลนิพพานเร็วขึ้น


21. ถวายพระบรมธาตุเพื่อบรรจุในเจดีย์ 

      มีอานิสงส์เป็นที่เคารพยกย่อง มีความสุข สมความปรารถนา
      ในชีวิต ประสบแต่สิ่งดี ได้อริยมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น


22. ถวายภาชนะบรรจุพระบรมธาตุในเจดีย์ - ทำให้ชีวิตมั่นคง

      ปลอดภัย ร่ำรวย มีบริวารดี มีเกียรติ เป็นที่ยกย่องแก่คนทั่ว


 อานิสงส์บูชาพระบรมสารีริกธาตุ

 1. ไม่ตายด้วยคมศาสตรา-อาวุธของศัตรูผู้มุ่งร้าย

 2. ปัญหาอุปสรรคผ่านพ้น ขอให้ตั้งใจจริงบูชาจริง


 3. ประกอบการค้าพาณิชย์ จะเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์


 4. รับราชการ ยศ ตำแหน่งจะเจริญขึ้นเร็ว และเจริญขึ้นเรื่อยๆ


 5. มีเมตตาเสน่ห์มหานิยม มหาโชค-มหาลาภ และคลาดแคล้ว


 6. เทวดาอารักษ์คุ้มครองรักษาตลอดกาล


 7. ครอบครัวเป็นสุข สงบ ร่มเย็น และเจริญรุ่งเรือง


 8. มีฤทธิ์เดช อำนาจ วาสนา บารมีแผ่ไพศาล บริวารจะเคารพ 

      หมู่ชนจะยำเกรง อานิสงส์ เป็นไปตามอธิษฐาน


อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์


1. เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไม่ประมาทมัวเมาในชีวิต


2. เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย


3. เมื่อใกล้ดับขันธ์ไม่หลงลืม


4. ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสมสำหรับสร้างบารมี


5. ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์เมื่อยังไม่หมดกิเลสในพระพุทธศาสนา


6. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพานโดยง่าย



 การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

1. บรรจุในเจดีย์ ผอบแก้ว หรือโถกระเบื้องมีฝาครอบ 
    อัญเชิญไว้ในที่สูงเหมาะแก่การกราบไหว้

2. สิ่งที่สำคัญ คือ น้อมใจระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า 
    ( สวด อิติปิโส ภควา อะระหังสัมมาฯ 3 จบ)

3. มีข้าวตอกดอกไม้เครื่องหอม บูชาด้วยก็ดี

4. การบูชาที่แท้จริง คือการปฏิบัติบูชา ได้แก่ การปฏิบัติตามคำสอน
    ของท่านซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับตนเอง อันจะทำให้เกิดศรัทธาและ
    ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่านอย่างลึกซึ้งเข้าไปในจิตใจ

5, พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาด้วยคำอธิษฐาน และเสด็จกลับก็ได้
    เมื่อปฏิบัติไม่ศรัทธาไม่ปฏิบัติธรรม

6. การปฏิบัติบูชาที่ถูกต้อง มีอานิสงส์มาก ทำให้สำเร็จประโยชน์
    และสุขสมบูรณ์ได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า และประโยชน์อย่างยิ่ง
    คือ พระปรินิพพาน

7. พระบรมสารีริกธาตุ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พบเห็นได้ไม่ง่ายนัก   
    เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้พวกเราเห็นได้แทนพระพุทธองค์
    พระพุทธดำรัสที่ตรัสกับ พระอานนท์คราวหนึ่งว่า 
   "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา, ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม" 

ถ้าจะอธิบายในอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า ผู้ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญ คุณความดี มีคุณธรรมประจำใจ ก็จะเห็นพระพุทธเจ้า 

8. การได้กราบไหว้บูชาสักการะพระบรมสารีริกธาตุนี้ มีผลานิสงส์มาก
    เท่ากับได้บูชาสักการะพระพุทธเจ้ามีพระชนม์อยู่ นับว่าเป็นมหา
    มงคล และให้อานิสงส์แก่ผู้สักการะอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทำให้
    ประสบความสำเร็จ และความสุขสมปรารถนาทั้งในชาตินี้
    และชาติหน้าตราบเข้าสู่พระปรินิพพาน

 อานิสงส์ที่บังเกิดแก่ผู้ที่มีความเคารพเลื่อมใส
 และกระทำสักการะโดยสุจริตใจ



 พระคาถาอัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ

เวลาอัญเชิญ หัวค่ำ เที่ยงคืน (ดีมาก) หัวรุ่ง  ปูผ้าขาว ตั้งขันสัมฤทธิ์ สักการะบูชาด้วยธูป 9 หรือ 16 เทียนคู่ ดอกไม้ เช่น ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกบวบ เป็นต้น

(ว่า นะโม 3 จบ)

อิมินาสักกาเรน พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ ปูุเชมิ 
(ว่าในใจไปเรื่อยๆ)

อิติปิโส วิเสเสอิ   อิเสเสพุทธนาเมอิ   อิเมนา พุทธตังโสอิ   อิโสตัง พุทธปิติอิ

จะทำได้สำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับบุญบารมี พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ย่อมเห็นเรา,  ผู้ใดเห็นเราย่อมเห็นธรรม"  พระสารีริกธาตุ ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธ์ืแทนพระพุทธองค์"

 

 
คำตั้งจิตอธิษฐานในการกราบบูชา
พระบรมสารีริกธาตุ

(ว่า นะโม 3 จบ)

อิมัสสะมิญจะ พุทธะเจติเย สุปุติฏฐิตัง ปะระมะสารีริกะธาตุง
อภิปูชะยามิ  อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

ข้าพเจ้าระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  เป็นที่พึ่ง
ข้าพเจ้ากราบนอบน้อมบูชา พระพุทธองค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระกรุณาอันหาประมาณไม่ได้  และได้ประกาศพระธรรม อันหลุดพ้นออกจากสังสารวัฏฏ์

ข้าพเจ้านอบน้อมด้วยกายวาจาใจ บูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ด้วยควาามเลื่อมใสยิ่ง


ขอตั้งจิตอธิษฐาน ด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำในวันนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดแนะนำให้ข้าพเจ้าเข้าใจธรรมของพระองค์ด้วย


 แม้ยังไม่บรรลุธรรมในชาตินี้ไซร้ ขอให้เกิดในพระบวรพุทธศาสนา และเป็นสัมมาทิฏฐิทุกชาติไป


ขอให้มีโอกาสได้พบพระอริยะสงฆ์ และได้ปฏิบัติธรรมตามเพื่อบรรลุอริยะมรรคผลสู่พระนิพพาน




 พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุในพรหมโลกเทวโลกและมนุษย์โลก

(ว่า นะโม 3 จบ)
สวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ

อะหัง วันทามิ อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ พรหมะโลเก สะเทวะมนุสสะโลเก ปติฏฐะมานา ปะระมะสารีริกะธาตุโย เจวะ ธาตุโย จะ มัยหัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะฯ


ข้าพเจ้า ขอกราบวันทา พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุทั้งหลายที่ประดิษฐานอยู่ในพรหมโลก ทั้งในเทวโลกและมนุษย์โลก ด้วยการบูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า 


เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความพ้นทุกข์แก่ข้าพเจ้า สิ้นกาลนานเทอญฯ


ขณะเมื่อสวดมนต์ไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุ จงตั้งใจสวดภาวนาด้วยพระคาถานี้ ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอรหันตสาวกทั้งหลาย 


ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาความดีงาม หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ปฏิบัติธรรมตามคำสอนในพระพุทธศาสนา จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวสืบไป


 พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุอีกแบบหนึ่ง

(ว่า นะโม 3 จบ)
 

อะหัง วันทามิ  ทูระโต   อะหัง วันทามิ  ธาตุโย  


อะหัง วันทามิ  สัพพะโสฯ


พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ 

84,000 องค์ ในชมพูทวีป

อัฏฐาระเส ทะเววัสสะสะเต ธัมมาโสโก ราชา อะหุ (ธัมมาโศกราช) 


จะตุราสีติสหัสสา เจติยา จะ การาปิตา  

ปูชิตา นะระเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโยฯ


สัตตะโทณานิ ธาตูนิ ชัมพูทีเป ปะติฏฐิตา

จะตุราสีติสหัสสา เจติยา ปะติมัณฑิตา 

ปูชิตา นะระเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโยฯ

 

พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุในเกาะลังกา

อะปะเรนะ สะมะเยน ทุฏโฐ นามะ นราธิโป


เอกะโทณัญ ธาตุนัง ลังกาทีเป ปะติฏฐิตัง


ปูชิตา นะระเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโยฯ



พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
ในสากลจักรวาล

จัตตะฬสะ สะมาทันตา  เกสา โลมา นะขา ปิ จะ เทวา  หะรันติ

เอเกกัง จักกะวาฬัง ปะรัมปะรา ปูชิตา นะระเทเวหิ 

อะหัง วันทามิ ธาตุโยฯ  

บริโภคเจดีย์ 
 คือ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล มีดังนี้


1. สวนลุมพินี 

สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า ระหว่างเมืองเทวะทหะกับกรุงกบิลพัสดุ ประเทศเนปาล

2. พุทธคยา 

สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ณ ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ เมืองพุทธคยา

3. อิสิปตนมฤคทายวัน

เมกขัมสถูป สารนาถ พาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้าได้แสดงธัมจักรกัปปวัตตนสูตร 

เพื่อทรงโปรดปัญจวัคคีย์ คือ อัญญาโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ

มหานามะ และอัสสชิ เมื่อแสดงธรรมจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม และขออุปสมบทเป็นภิกษุรูปแรก
            

                        
4. กุสินารา 

สาลวัน สถานที่พระพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

ธรรมเจดีย์

 คือ เจดีย์เก็บจารึกพระธรรม 
ลงแผ่นทอง แผ่นศิลา เป็นต้น


พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอันศักดิ์สิทธิ์
อายุมากกว่า 2,000 ปี ถูกค้นพบในถ้ำบริเวณหุบเขาบามิยัน
แคว้นคันธาระ ประเทศอัฟกานิสถาน
คาดว่าได้บันทึกในพุทธศตวรรษที่ 6 โดยพระสาวก
นับได้ว่าเป็นต้นฉบับพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธ

อุเทสิกเจดีย์

 คือ พระพุทธรูป ธรรมจักร รอยพระพุทธบาท 
พระแท่นวัชรอาสน์ หรือสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า

(ปรับปรุงบางตอนเพื่อให้เนื้อความกระชับมากขึ้น 
โดย อ. สุชาติ ภูวรัตน์ อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)

อ้างอิง
 
1. หนังสือพระธาตุเจดีย์และรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์
    ในประเทศไทย
2. เอกสารวัดสังฆทาน

3. ธรรมาจารย์อัญเชิญพระธาตุเสด็จ

พระธาตุของสาวกผู้เป็นอรหันต์


พระธาตุของพระสารีย์บุตร

พระธาตุของพระโมคคัลลาน

พระธาตุของพระโมคคัลลาน

พระธาตุของพระอานนท์

พระธาตุของพระสิวลี

พระธาตุของพระสิวลี

พระธาตุของพระอัญญาโกญทัญญะ

พระธาตุของพระองคุลีมาล


พระธาตุของพระอริยะสงฆ์ไทย
(พระอรหันต์ไทย)
หลวงปู่ตื้อ ท่านว่า ตะบะเผากิเลสแรงมาก สามารถเผากิเลสให้หมดไปได้ และสามารถเผากระดูกให้เป็นแก้วได้ คือเป็นพระธาตุได้ 
อัฐิของท่านก็เป็นพระธาตุ
 






 









 






















  ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ขออภัยที่รวบรวมยังไม่หมดในขณะนี้
คิดว่าต้องมีพระธาตุของพระอริยสงฆ์ไทยมากกว่านี้
มีเพิ่มเติมก็จะนำมาลงไว้ให้สาธุชนได้ชมเป็นขวัญตาเป็นอุทาหรณ์
เพื่อผู้สนใจจะได้มีกำลังใจปฎิบัติตามสู่ความพ้นทุกข์

-------------------------------------------------------------------------------------------------------














No comments:

Post a Comment